มาตราฐานสำคัญและจำเป็นจุดเน้นเพื่อความปลอดภัย

0
10820
มาตราฐานสำคัญและจำเป็นจุดเน้นเพื่อความปลอดภัย
มาตราฐานสำคัญและจำเป็นจุดเน้นเพื่อความปลอดภัย

“เหตุผลที่จะทำให้แนวทางปฏิบัติที่สร้างขึ้นมีการปฏิบัติจริง คือ การหมั่นทบทวนปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ มีการสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องและทดลองใช้ และการมีส่วนร่วมของสหสาขาวิชาชีพ”  แพทย์หญิงปิยวรรณ  ลิ้มปัญญาเลิศ

ระบบบริการสุขภาพตามมาตรฐาน HA (Hospital accreditation) ได้รับความไว้วางใจ มีความปลอดภัย จากวิสัยทัศน์ของสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) ที่รับรองระบบงานรับรองกระบวนการที่ทำให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ป่วย มาตรฐานที่สำคัญจำเป็นต่อความปลอดภัยควรมีคุณลักษณะดังต่อไปนี้

  1. ควรเป็นประเด็นเกี่ยวกับความผิดพลาดที่ป้องกันได้ (Preventable Harms) และมีความสำคัญหากเกิดความไม่ปลอดภัยในประเด็นดังกล่าวจะส่งผลต่อความไม่น่าไว้วางใจกับระบบของโรงพยาบาล
  2. ควรเป็นประเด็นที่มีระบบอยู่ในมาตรฐาน HA (Hospital accreditation) และสอดคล้องกับคู่มือแนวทางความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากร (National Patient and Personnel Safety Goals)
  3. เป็นประเด็นที่ได้รับการความยอมรับในระดับสากล หรือเชิงนโยบาย ที่ควรเกิดการขับเคลื่อน
  4. เป็นประเด็นที่สถานพยาบาลสามารถดำเนินการได้และเกิดประโยชน์เชิงระบบกับสถานพยาบาล

วันที่ 1 เมษายน 2563  WHO (World health organization) กำหนด มาตรฐานสำคัญจำเป็นต่อความปลอดภัย และมาตรฐาน HA advance กล่าวถึงความไม่ปลอดภัย (Harm) ทั้งที่แบบป้องกันได้ และป้องกันไม่ได้ เน้นที่ความไม่ปลอดภัยที่ป้องกันได้ (Preventable harm) มีแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดความไม่ปลอดภัยดังกล่าว สรพ.จะเลือกประเด็นที่เป็นนโยบายที่ควรขับเคลื่อน สถานพยาบาลสามารถทำได้  และเมื่อโรงพยาบาลทำแล้วรู้สึกว่าเกิดประโยชน์ จาก 2 P Safety  และNational Patient and Personnel safety goal มาตรฐานสำคัญที่จำเป็นต่อความปลอดภัยมีจำนวน 9 เรื่อง  ได้แก่

  1. การผ่าตัดผิดคน ผิดข้าง ผิดตำแหน่ง ผิดหัตถการ (Safe surgery- มาตรฐานข้อ III-4.3) ร่วมกันทบทวนว่าโรงพยาบาลมีแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือยัง ทีมผู้ปฏิบัติงานใช้แนวทางปฏิบัติหรือไม่ แนวทางดังกล่าวทบทวนครั้งสุดท้ายเมื่อไร  มีการวางระบบรายงานหรือยัง มีผู้รับผิดชอบเก็บข้อมูลและเฝ้าดูอุบัติการณ์หรือยัง  ผลลัพธ์การปฏิบัติเป็นอย่างไร
  2. การติดเชื้อที่สำคัญในสถานพยาบาล ตามบริบทขององค์กรในกลุ่ม Surgical site infection (SSI), Ventilator-associated pneumonia (VAP) , Catheter Associated Urinary tract infection (CAUTI), Central-line associated bloodstream infections (CLABSI) พบว่ามีอุบัติการณ์การติดเชื้อในโรงพยาบาลมาก  จึงนำมาทบทวนให้คะแนนความปลอดภัยเรื่อง การป้องกันติดเชื้อในโรงพยาบาล นำไปสู่การแก้ไขป้องกันภาพรวมของทั้งโรงพยาบาล ผู้บริหารการจัดสรรทรัพยากร สื่อสารนโยบาย “Clean care is safer care – การล้างมือ 7 ขั้นตอน” จะช่วยลดการติดเชื้อในโรงพยาบาลลงได้
  3. บุคลากรติดเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่ (Personal safety) องค์กรมีนโยบายการดูแลบุคลากรให้ทำงานอย่างปลอดภัย (Healthcare personal) มีแนวทางปฏิบัติ (Guideline) ในการป้องกันการติดเชื้อ เช่น โรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 (โควิด 19) โรควัณโรค (Tuberculosis-TB) เป็นต้น
  4. การเกิด Medication error และ Adverse drug event เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่มีความสำคัญมาก  จากการเก็บสถิติระดับประเทศ พบว่ามีระบบดักจับก่อนเกิดอุบัติการณ์ (Near missed) ค่อนข้างดีอยู่แล้ว
  5. การให้เลือดผิดหมู่ ผิดคน ผิดชนิด (Blood safety) จัดเป็นอุบัติการณ์ที่ป้องกันได้และไม่ควรเกิดขึ้น (Never event)
  6. การระบุตัวผู้ป่วยผิดพลาด พบมีอุบัติการณ์การส่งตัวผู้ป่วยผิดคน ทำให้มีคนเสียชีวิต การป้องกันอุบัติการณ์ดังกล่าวต้องมีการวางระบบให้ชัดเจน ให้มีการตรวจสอบบ่งชี้ผู้ป่วยถูกต้องสม่ำเสมอทุกขั้นตอนของการดูแลผู้ป่วย
  7. ความคลาดเคลื่อนในการวินิจฉัยโรค เป็นมาตรฐานสำคัญในเป้าหมายความปลอดภัยของผู้ป่วย (patient safety goal)
  8. การรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ /พยาธิวิทยาคลาดเคลื่อน
  9. การคัดกรองที่ห้องฉุกเฉินคลาดเคลื่อน

สิ่งที่โรงพยาบาลควรทำคือการนำมาตรฐานสำคัญที่จำเป็นต่อความปลอดภัยทั้ง 9 เรื่อง มาทบทวนโดยทีมสหสาขาวิชาชีพเพื่อแยกประเภทว่าเรื่องใด “ทำได้ดีแล้ว” และเรื่องใด “ยังมีโอกาสพัฒนา” โรงพยาบาลที่ผ่านการรับรอง HA อย่างน้อยจะมีระบบการดูแลผู้ป่วยใน 9 เรื่องนี้ มีการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ มีผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบบริการ ทำให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ป่วยที่มารับบริการอย่างมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่โรงพยาบาลควรจัดทำและนำมาปฏิบัติคือ

  • แนวทางปฏิบัติ (Guideline or CPG – Clinical practice guideline) และเฝ้าติดตามให้มีการปฏิบัติจริง  เหตุผลที่จะทำให้เกิดแนวทางปฏิบัติและปฏิบัติจริงจากความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติงานมีดังนี้
  1. มีการหมั่นทบทวนปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์
  2. มีการสื่อสารทำความเข้ากับผู้ที่เกี่ยวข้องและทดลองใช้
  3. แนวทางปฏิบัตินั้นเกิดจากการมีส่วนร่วมของสหสาขาวิชาชีพ ไม่ใช่โดยใครคนใดคนหนึ่ง
  • เฝ้าติดตาม (Monitor) เก็บข้อมูลอุบัติการณ์ (Incident report – IR) ดังระบบรายงานอุบัติการณ์ในมาตรฐานใหม่ตอนที่ 4 แบบประเมินตนเองจะมีช่องให้เติมจำนวนอุบัติการณ์ และให้เขียนแนวทางการป้องกันประกอบไว้ด้วยสั้นๆ 3-4 บรรทัด การตรวจเยี่ยมของ สรพ.จะสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติงานที่หน้างานเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง  
  • นำอุบัติการณ์ที่อยู่ในระดับรุนแรงระดับ E ขึ้นไปมาทบทวน ต้องมีการวิเคราะห์รากเหง้าของปัญหา (Root cause analysis – RCA) เมื่อเกิดเหตุกับคนไข้ให้เหมาะสมกับปัญหาและความรุนแรงนั้นๆ ทบทวนเพื่อวางแนวทางปฏิบัติ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นอีก ถ้ามีแนวทางปฏิบัติที่ดี อุบัติการณ์นั้นๆจะเกิดขึ้นน้อยลงแน่นอน (Potential change)    
  • จัดทำแผนควบคุมป้องกันความเสี่ยง (Risk register) ดำเนินงานอย่างเป็นระบบเพื่อติดตามผลการปฏิบัติ มาตรฐานสำคัญที่เกิดขึ้นจากคำถามว่าทำไม (WHY) อะไรคือพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe act) เช่น การให้ยาโดยไม่ได้ถามชื่อ นามสกุล เกิดจากปัจจัยแวดล้อมหรือสถานการณ์อะไร คิดเชิงระบบ ไม่คิดถึงเฉพาะตัวบุคคล การป้องกันอาจมีการสร้างนวัตกรรมขึ้น โดยใช้ Human factor engineering (HFE) ปรับในแนวทางปฏิบัติ Guideline ที่มีอยู่ ทำให้คนไข้ได้รับความปลอดภัยมากขึ้น
  • เมื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกันอุบัติการณ์ มีการบันทึกผลการดำเนินการว่าเกิดแนวทางอะไรขึ้นบ้าง บันทึกข้อมูลในแบบประเมินตนเอง ทีมสหวิชาชีพร่วมกันพิจารณาว่าเรื่องใดที่มั่นใจว่าโรงพยาบาลทำได้ดีแล้ว และเรื่องใดที่ โรงพยาบาลต้องใช้ความพยายามในการดำเนินการจึงจะสำเร็จ ทั้งนี้เมื่อพบช่องโหว่ (Gap) ในการปฏิบัติแล้ว จึงวางแผนการปฏิบัติต่อไป (Action plan) ให้เกิดความปลอดภัยแก่คนไข้และบุคลากร ตามมาตราฐานสำคัญและจำเป็นจุดเน้นเพื่อความปลอดภัย (2P Safety และNational Patient and Personnel safety goal)

ถอดบทเรียนโดย กาญจนา เสนะเปรม หัวหน้างานพัฒนาระบบบริการพยาบาล                                                                โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ

ภาพถ่ายโดย Asad Photo Maldives จาก Pexels

 

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here