ในมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพฉบับที่ 4 ในบท “สิ่งแวดล้อมในการดูแลผู้ป่วย” ในข้อ II-3.1 ก.(1) กำหนดไว้ว่า “โครงสร้างอาคารสถานที่ขององค์กรเป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ และข้อกำหนดในการตรวจสอบอาคารสถานที่” และในประกาศของ สรพ. เรื่อง ขั้นตอนการเยี่ยมสำรวจ และเอกสารที่ต้องจัดเตรียมเพื่อการเยี่ยมสำรวจขั้นที่ 3 พ.ศ. 2561 (ฉบับที่ 2) กำหนดไว้ว่า “สำหรับสถานพยาบาลเอกชน ขอให้แนบใบรับรองการก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือเคลื่อนย้ายอาคาร (แบบ อ.6) หรือในอนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคาร (แบบ อ.5) ทุกอาคารที่ให้บริการผู้ป่วย ตามที่กฎหมายกำหนด”
เหตุที่ต้องมีการกำหนดเรื่องการใช้อาคารไว้อย่างนั้น ก็เพื่อยืนยันความปลอดภัยของอาคารทั้งในแง่ของความแข็งแรงและปลอดภัยของโครงสร้างอาคาร ตลอดจนการมีโครงสร้างอาคารที่เอื้อการต่อการระงับอัคคีภัยและการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและบุคลากรในภาวะเกิดอัคคีภัย
ในแง่ของกฎหมาย เมื่อโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งจะเปิดให้บริการประชาชน กฎกระทรวงที่กำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล พ.ศ. 2558 ข้อ 7 กำหนดว่า “โรงพยาบาลต้องได้รับอนุญาตเป็นอาคารสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร”
ในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในมาตรา 32 กำหนดว่า อาคารที่ใช้เป็นสถานพยาบาล ถือเป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตใช้งานอาคารจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อน จึงจะสามารถใช้งานอาคารเหล่านั้นเป็นสถานพยาบาลได้
ในกฎหมายที่ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 คือ กฎกระทรวง ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2528 กำหนดว่า เมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจสอบแล้วเห็นว่าการก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือเคลื่อนย้ายอาคารนั้นเป็นไปโดยถูกต้องตามที่ได้รับใบอนุญาต ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกใบรับรองตามแบบ อ.6 ส่วนกรณีที่เจ้าของอาคารต้องการเปลี่ยนการใช้งานอาคารเดิมที่ไม่ใช่อาคารควบคุมการใช้ มาเป็นอาคารสถานพยาบาลซึ่งเป็นอาคารควบคุมการใช้ ให้เจ้าของอาคารทำเรื่องขอมาตามขั้นตอน และเมื่อมีการตรวจสอบครบถ้วนตามขั้นตอน ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกใบอนุญาตตามแบบ อ.5