Adoption of ESG in Healthcare
ESG ในภาคการดูแลสุขภาพ: แนวทางปฏิบัติสู่ความยั่งยืนสำหรับบุคลากรทางการแพทย์
ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ ESG สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
ESG หรือ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance) เป็นกรอบการประเมินที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาระบบสุขภาพอย่างยั่งยืน ESG แตกต่างจาก CSR (Corporate Social Responsibility) โดย ESG มุ่งเน้นการวัดผลเชิงปริมาณที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพทางการเงิน ในขณะที่ CSR เน้นที่ผลกระทบในวงกว้าง และความรับผิดชอบต่อสังคม
สำหรับโรงพยาบาล และองค์กรสุขภาพ ESG มีความสำคัญในการจัดการความเสี่ยง เช่น ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสุขภาพของผู้ป่วย และการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ นอกจากนี้ การดำเนินการตามหลัก ESG ยังเปิดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับโครงการสีเขียว และการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่ยั่งยืน
องค์ประกอบของ ESG ที่สำคัญต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์
มิติสิ่งแวดล้อม (Environmental)
- การลดคาร์บอนในการให้บริการทางการแพทย์: การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในห้องผ่าตัด หอผู้ป่วย และพื้นที่ให้บริการ
- การจัดการขยะทางการแพทย์: แนวทางการคัดแยกและกำจัดขยะติดเชื้อและขยะอันตราย
- การลดการใช้วัสดุสิ้นเปลือง: การพิจารณาทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับอุปกรณ์การแพทย์แบบใช้ครั้งเดียว
มิติสังคม (Social)
- การเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม: การพัฒนาโครงการที่ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพในชุมชน
- การพัฒนาบุคลากร: การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและส่งเสริมความก้าวหน้าในวิชาชีพ
- การสื่อสารกับผู้ป่วย: การพัฒนาระบบที่เคารพความเป็นส่วนตัวและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีของผู้ป่วย
มิติธรรมาภิบาล (Governance)
- ความโปร่งใสในการตัดสินใจทางคลินิก: การพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่อิงหลักฐานเชิงประจักษ์
- ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ป่วย: การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลสุขภาพ
- การจัดการความเสี่ยงทางคลินิก: การพัฒนาระบบป้องกันความผิดพลาดทางการแพทย์และการเรียนรู้จากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์
แนวทางการนำ ESG มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานทางการแพทย์
การนำ ESG มาใช้ในงานประจำวันของแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขา ควรดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:
- เริ่มจากการประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน
- ทบทวนแนวทางปฏิบัติในหน่วยงานที่สอดคล้องกับหลัก ESG อยู่แล้ว
- ระบุโอกาสในการพัฒนาที่มีผลกระทบสูงและดำเนินการได้จริง
- ใช้ข้อมูลที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- วิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่เพื่อระบุแนวโน้มและโอกาสในการปรับปรุง
- เก็บข้อมูลเพิ่มเติมเฉพาะที่จำเป็นสำหรับการตัดสินใจ
- วางแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนและวัดผลได้
- กำหนดเป้าหมายระยะสั้นที่ทีมสามารถบรรลุได้
- ระบุผู้รับผิดชอบและกรอบเวลาที่ชัดเจน
- สร้างการมีส่วนร่วมในทีมและหน่วยงาน
- สื่อสารประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อผู้ป่วย บุคลากร และระบบสุขภาพ
- ยกย่องและให้การสนับสนุนผู้ที่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง
- ติดตามและรายงานผลอย่างสม่ำเสมอ
- วัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทั้งในด้านคลินิกและประสิทธิภาพการทำงาน
- ใช้ข้อมูลในการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ ESG สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
สำหรับแพทย์:
- การพิจารณาทางเลือกในการรักษาที่ลดการใช้ทรัพยากรแต่ยังคงประสิทธิผลทางคลินิก
- การมีส่วนร่วมในการพัฒนาแนวทางเวชปฏิบัติที่คำนึงถึงต้นทุน-ประสิทธิผล
- การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการให้คำปรึกษาทางไกลเพื่อลดการเดินทางของผู้ป่วย
สำหรับพยาบาล:
- การทบทวนและปรับปรุงขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยเพื่อลดการใช้วัสดุสิ้นเปลือง
- การพัฒนาโปรแกรมให้ความรู้ด้านสุขภาพที่คำนึงถึงปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
- การมีส่วนร่วมในคณะกรรมการความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากร
สำหรับเภสัชกร:
- การทบทวนการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- การจัดการระบบคลังยาและเวชภัณฑ์เพื่อลดการหมดอายุและการสูญเสีย
- การพัฒนาโครงการรับคืนยาที่ไม่ใช้แล้วเพื่อกำจัดอย่างเหมาะสม
ประโยชน์ที่บุคลากรทางการแพทย์จะได้รับจากการนำ ESG มาใช้
การนำหลักการ ESG มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจะส่งผลดีต่อบุคลากรทางการแพทย์ ดังนี้:
- ผลลัพธ์ทางคลินิกที่ดีขึ้น: การดูแลที่ครอบคลุมปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อมส่งผลต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีขึ้น
- ประสิทธิภาพในการทำงาน: การลดความสูญเสียและขั้นตอนที่ไม่จำเป็นช่วยลดภาระงานและเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน
- ความก้าวหน้าในวิชาชีพ: การมีส่วนร่วมในโครงการ ESG เป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญใหม่ๆ
ข้อแนะนำในการเริ่มต้น
จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในวงการ มีข้อแนะนำสำคัญสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องการเริ่มต้นนำ ESG มาใช้:
- เริ่มจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว: ใช้ข้อมูลและทรัพยากรที่มีอยู่แล้วในองค์กรเป็นจุดเริ่มต้น
- เน้นความเรียบง่าย: หลีกเลี่ยงการสร้างระบบที่ซับซ้อนเกินไป เลือกแนวทางที่ปฏิบัติได้จริง
- มุ่งเน้นที่ผลลัพธ์: ให้ความสำคัญกับการวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงมากกว่าการวางแผนที่สมบูรณ์แบบ
- เรียนรู้จากผู้อื่น: ศึกษาจากองค์กรสุขภาพที่ประสบความสำเร็จในการนำ ESG มาใช้
การนำหลักการ ESG มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานประจำวันไม่เพียงแต่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพการดูแลผู้ป่วยและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย
สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่
- ผนึกกำลังองค์กรระบบสุขภาพไทยเพื่อประชาชนไทยทุกคน
- สำหรับความท้าทายการพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพในยุคใหม่
- การจัดการสิ่งแวดล้อมในการดูแลผู้ป่วยเพื่อการเยียวยา (Healing Environment)
- Transformation Environment and Back Office
- การจัดการข้อมูลที่ดี เราทำได้: Data Governance in Practice
- การกำกับดูแลทางคลินิก Clinical Governance
ดร.ภก.ทรงศักดิ์ ทองสนิท ผู้ถอดความ