Future of Sustainable Medication Management: Closed Loop Medication

0
225

การจัดการด้านยาที่มีประสิทธิภาพ เป็นกระบวนการหนึ่งที่สำคัญในโรงพยาบาล เนื่องจากส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ซึ่ง “Closed loop medication management” เป็นการบูรณาการทุกขั้นตอนของการจัดการด้านยาตั้งแต่การสั่งยาจนถึงการบริหารยา โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปลอดภัย ด้วยการทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติ ต่อเนื่อง และมีตรวจสอบข้อมูลในแต่ละขั้นตอน

การวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด ครอบคลุม โดยนำข้อมูลความคลาดเคลื่อนที่พบบ่อยในแต่ละขั้นตอน ร่วมกับวิเคราะห์โอกาสการเกิดความคลาดเคลื่อน เช่น  ชนิดยา ความแรงของยา ขนาดยา ความถี่ในการใช้ยา วิถีการใช้ยา ฯลฯ และหลักการออกแบบให้ปลอดภัยขอให้เน้นขั้นตอนแรกของการใช้ยาซึ่งหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น โอกาสเกิดข้อผิดพลาดในขั้นตอนต่อไปก็จะมีมากขึ้น

กระบวนการแรกของการใช้ยาเริ่มจาก “การสั่งยา” ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่มีการสั่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (Computerised Physician Ordering Entry system: CPOE) หากมีการวิเคราะห์ขั้นตอนนี้โดยละเอียด สามารถนำไปออกแบบให้มีฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจในการสั่งใช้ยา (Clinical Decision Support System: CDSS) ซึ่งช่วยให้การสั่งยาปลอดภัยเพิ่มขึ้น กระบวนการที่สำคัญอีกขั้นตอนได้แก่ “การทบทวนคำสั่งการใช้ยา” เพื่อให้มั่นใจว่าคำสั่งการใช้ยานั้นถูกต้อง ปลอดภัย ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการจัดยาโดยเครื่องจัดยาอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติ และนำไปบริหารให้ผู้ป่วยโดยต้องออกแบบให้มั่นใจว่าถูกต้องตามหลักบริหารยา เช่นกัน

โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาการุณย์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำระบบบริหารยามาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากนำปัญหาความล่าช้า และความถูกต้อง ของการบริหารยา นำไปสู่การกำหนดนโยบาย และร่วมกันออกแบบการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้แก่ ระบบจ่ายยาอัตโนมัติ มาจัดการเพิ่มความปลอดภัย และลดระยะเวลาในการบริหารยา ยังมีการกำหนดมาตรฐานการทำงานที่ชัดเจน และการอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจและการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในการจัดการ Medication Error แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของบุคลากร โดยบุคลากรยังคงต้องมีการอบรมและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับข้อจำกัดของระบบที่ใช้ และวิธีการปิดช่องว่าง (Gap Analysis) ที่อาจทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น รวมถึงการมีมาตรฐานการทำงานที่ชัดเจน (Standard Operating Procedure: SOP) เพื่อให้บุคลากรทุกฝ่ายทำงานไปในทิศทางเดียวกัน

สรุปได้ว่า การจัดการด้านยาอย่างมีประสิทธิภาพในโรงพยาบาลนั้นต้องอาศัยทั้งการออกแบบระบบที่ดี เทคโนโลยีที่เหมาะสม และการจัดการด้านบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ป่วย และลด Medication Error ให้เข้าใกล้ระดับศูนย์มากที่สุด

“Not only Closed loop medication but Smart system & Staff can get near ZERO medication error”

ภญ. วิชชุนี พิตรากูล ผู้สรุป

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here