ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยี หรือดิจิตอลเข้ามามีส่วนสำคัญในงานโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก แต่หากเราลองมองกลับมาทบทวนใคร่ครวญอีกทีเราจะรู้ว่าที่จริงแล้วเทคโนโลยีนั้นอยู่กับเรามาเป็นเวลานาน กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต เพียงแต่วิกฤตที่ผ่านมาเป็นตัวกระตุ้นทำให้มนุษย์เราอาศัยเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเทคโนโลยีนั้นมีความก้าวหน้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ ระบบปัญญาประดิษฐ์ การเข้าถึงเทคโนโลยีที่ง่ายมากขึ้น ฯลฯ ส่งผลให้เราจำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามจะพบว่ามีทั้งคนที่เปลี่ยนแปลงได้ และเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ซึ่งล้วนส่งผลต่อความสุขและผลลัพธ์ของการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน
ในการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ปรับตัวได้เท่าทันกับเทคโนโลยีนั้น โดยเริ่มต้นได้ที่การปรับ “กรอบความคิด (Mindset)” ของเราเอง หากจะถามว่า Mindset คืออะไร Mindset คือกรอบแนวคิด ทัศนคติ ค่านิยม ความเชื่อ วัฒธรรม ที่แสดงออกมาเป็นพฤติกรรมและการตัดสินใจของเราต่อสิ่งต่างๆ สิ่งสำคัญในการพัฒนา Mindset ของตัวเรา คือ การเปลี่ยนความคิดและทัศนคติที่ตัวเรา หากเราสามารถเปลี่ยนแปลง Mindset เราได้ไว เราจะเป็นคนที่สามารถทำสิ่งใหม่ๆ และมีทักษะในการเรียนเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
“Mindset เปรียบเสมือนกลไกหรือเครื่องจักร ที่มักเปลี่ยนแปลงได้ยาก แต่หากทำให้กรอบแนวคิดเปลี่ยนแปลงได้ ทัศนคติจะต้องเปลี่ยน แล้วจะส่งผลให้เราประสบความสำเร็จในการทำงาน”
ปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลง Mindset เพื่อการปรับตัวในการทำงานยุคดิจิตอล
การเรียนรู้จากประสบการณ์โดยตรง (Experience)
การตรึกตรองและคิดใคร่ครวญ จากประสบการณ์ที่เราได้รับ (Reflection)
มุมมองที่เกิดจากประสบการณ์ที่เราพบเจอ อาจจะไม่ต้องเหมือนกัน (Perspective)
ฟังอย่างตั้งใจ โดยฟังให้เข้าใจอย่างถ่องแท้...
HA National Forum 23
บทบรรณาธิการ Quality Care HA 23rd – Synergy for Safety and Wellbeing
Quality Learning -
ทีมงาน Quality Care ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อเก็บประเด็น และสรุปสาระความรู้ที่น่าสนใจในการประชุม HA National Forum ซึ่งครั้งนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 23 ในหัวข้อ Synergy for Safety and Well-being “ผนึกกำลังเพื่อความปลอดภัย และสุขภาวะ”
อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่า ความปลอดภัย และสุขภาวะ เป็นเป้าหมายที่สำคัญยิ่งในกระบวนการดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพทั้งต่อผู้ป่วยเอง และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งการจะทำให้เป้าหมายนี้สำเร็จได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่สามารถทำเองเพียงคนเดียว แต่ต้องอาศัยการผนึกกำลัง อันหมายถึงการร่วมแรงร่วมใจกันของบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีเกินกว่าที่ใครคนใดคนหนึ่งจะสำเร็จเองได้
ในงานประชุม HA National Forum ครั้งนี้ จะทำให้ท่านให้เห็นถึงแง่มุมด้านต่างๆ ของการผสานพลัง เพื่อความปลอดภัย และสุขภาวะ ของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในระบบสุขภาพ เช่น การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การทำงานเป็นทีม และการเรียนรู้ร่วมกันจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น รวมทั้งการดำเนินการเชิงรุกที่บุคลากรทางการแพทย์สามารถใช้เพื่อป้องกันอุบัติการณ์ และส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ป่วยในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น ท่านยังจะได้เรียนรู้จากภาวะการเป็นผู้นำที่ส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัย และวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และจากเพื่อนร่วมวิชาชีพ และเหนือสิ่งอื่นใด หวังว่างานครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกท่านจะได้สานต่อ ผนึกกำลังเพื่อจุดหมายเดียวกัน คือความปลอดภัย และสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้นต่อไป
กองบรรณาธิการ Quality Care 2023
มีคำถามที่เราต้องการหาคำตอบว่า... เราจะเป็นบุคลากรสาธารณสุขรุ่นใหม่ที่มีหัวใจคุณภาพได้อย่างไรกัน ?
ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก กว่า 2 ปี ที่ต้องรับมือกับโควิด-19 ที่ข้ามมาระบาดในบ้านเรา ในสภาวะที่ต้องเจอปัญหารอบด้าน หรือต้องเจออุปสรรคในการทำงาน บุคลากรมีความจำเป็นต้องเพิ่มการดูแลตัวเองอย่างสูงสุด ปัญหาส่วนตัว คือ การที่ต้องเพิ่มการดูแลครอบครัวอย่างจริงจัง
ปัญหาส่วนรวม คือ ความจำเป็นของการดูแลผู้ป่วย ในสภาวการณ์เช่นนี้ ฉันมองเห็นเพื่อนร่วมงานต่างหวาดกลัวและอ่อนล้า จนอยากเดินเข้าไปกอด แต่ด้วยสถานการณ์ ได้แค่เอ่ย ... ถาม ทุกข์ สุขเบาๆ ในระยะ 1-2 เมตร สบตามองหน้าและยิ้มให้กำลังใจกัน ภายใต้หน้ากาก 2 ชั้น ประโยคที่พวกเราท่องจำกันได้อย่างขึ้นใจ
“ใส่หน้ากาก 2 ชั้น ล้างมือบ่อยๆ ใช้แอลกอฮอส์เจล ยืนห่างกันระยะ 1-2 เมตร ห้ามเปิดปากกินข้าวด้วยกัน” แว่วเสียงผู้บริหารลอยลมมา เป็นคำพูดที่เหมือนหยอกเย้า แต่ก็แฝงด้วยความจริงจัง กินข้าวกับใครก็ได้นอกโรงพยาบาล มีนัด ออกเดทก็ได้ แต่ห้ามกินข้าวด้วยกันในที่ทำงาน ทำให้ทุกคนแอบนั่งอมยิ้ม เพราะมันคือเรื่องจริงกินข้าวด้วยกัน วงเดียวกันเปิดปากพูดกันครั้งใด เป็นเรื่อง !!
ในวิกฤตที่เกิดกับโรงพยาบาลเอกชน รายได้ที่ลดลงพราะ ผู้คนกลัวการมาโรงพยาบาล หลายคนยอมป่วยอยู่ ...
ถอดบทเรียนโควิด...สอนอะไร ?
การเจ็บป่วยโรคภัยไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง โดยเฉพาะโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
อาจที่ทำให้ผู้ป่วยจะรู้สึกวิตกกังวลใจมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ตัว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสื่อสารอย่างค่อยเป็นค่อยไป ระหว่างทีมรักษาพยาบาล และผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาและคลายความกังวล ผู้ป่วยหลายรายได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ได้สร้างความเข้าใจผ่านการสื่อสารโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ ทำให้มีกำลังใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการรักษาและอาการเจ็บป่วย
หากได้ลองหลับตานึกย้อนกลับไปถึงช่วงการแพร่ระบาดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ต้องทำงานอย่างหนัก แต่ช่วงเวลานั้นทำให้เราได้รู้ว่าการรักษาพยาบาลผู้ป่วยไม่ได้อาศัยกำลังเฉพาะของ แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังมีการประสานงานของทีมงานฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอื่นๆ รวมถึงแรงสนับสนุนจากภาคเอกชนและประชาชาชนในพื้นที่ด้วย
กุญแจที่สำคัญดอกหนึ่งสู่ความสำเร็จคือการมีทำงานเป็นทีมหรือการมีทีมงานที่ดีที่คอยช่วยเหลือ สนับสนุนการทำงานของแต่ละบทบาทหน้าที่ ซึ่งทุกคนได้เสียสละเวลา แรงกาย กำลังทรัพย์ คอยช่วยเหลือผู้ป่วย และผลตอบแทนที่น่าภาคภูมิใจทำให้บุคลากรที่ทำงานอยู่และภาคส่วนที่มีส่วนร่วมมีกำลังใจในการทำงานต่อไป และมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือคือ การที่ผู้ป่วยหายจากอาการป่วย ได้กลับบ้าน ไปหาครอบครัวและคนที่รัก และกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ประสบการณ์หลากหลายรูปแบบที่ได้รับจากการให้บริการผู้ป่วยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ทำให้เราได้คำตอบกับคำถามชีวิตมากมาย และหนึ่งในนั้นคือ “การมี empathy...
Story Inspiration
ใครรู้บ้างมั้ย ? “บุคลากรสาธารณสุขยุคใหม่ หัวใจคุณภาพ” เป็นอย่างไร ?
administrator -
ใครรู้บ้างมั้ย ? "บุคลากรสาธารณสุขยุคใหม่ หัวใจคุณภาพ” เป็นอย่างไร ?
Who knows?
ด้วยคำพูดของพี่คนหนึ่ง ในฝ่ายพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลแห่งนี้ "ให้คุณภาพอยู่ในงานประจำ ทำงานประจำให้มีคุณภาพ" ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว กับการเริ่มทำงานในระบบงานด้านสาธารณสุขกับที่นี้เมื่อได้ยินประโยคนี้มีคำถามขึ้น มากมายในหัว “หมายถึงอะไร ต้องทำอย่างไร ที่เราทำทุกวันนี้มี" คุณภาพไหม เราจะช่วยพาเพื่อนๆ ในแผนกต่างๆ ให้ทำงานได้คุณภาพอย่างไร บลา บลา บลา…….”
สิ่งหนึ่งที่มาหยุดความคิด คือ พี่คนเดิมพูดต่อ “คือความตระหนักถึง หน้าที่ความรับผิดชอบ ต้องส่งมอบงานให้สมบูรณ์ ได้คุณภาพมาตรฐานการพยาบาล และคุณธรรมที่ผู้รับบริการควรได้รับ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของผู้รับบริการดีขึ้น มีความสุขกายและสบายใจ ทุกคนในองค์กรทำได้ ตั้งแต่ผู้อำนวยการ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ หรือแม้กระทั้ง หน่วยเล็กๆ เพียงแค่ปรับวิธีกระบวนการทำงานให้ปลอดภัย สะดวก รวดเร็วทั้ง ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ โดยคำนึงผู้รับบริการเป็นหลัก” ตั้งแต่นั้น มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในที่แห่งนี้ ...
สถานการณ์หนึ่งที่ยังติดตาและประทับใจพวกเราเสมอ...วันนั้น...
การบริการในยุคโควิด (19) สร้างทีมเวิร์ค!
โควิด -19 ให้อะไรกับเรา ? เอาจริงๆ ถ้ามีใครถามคำถามนี้กับเรา เราอาจจะเอียงคอ ทำหน้าครุ่นคิดไปพักใหญ่กันเลยทีเดียว ก็เราไม่เห็นว่าเราจะได้ประโยชน์อะไรกับโรคนี้เลย แต่ถ้ามองลึกๆ ลงไป เราจะมองเห็นความเป็น “ทีม” ก็ได้ เกือบ 3 ปี ที่โควิด-19 (โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)) เข้ามา วิถีชีวิตของเราก็เปลี่ยนไป ประชาชนทุกคนต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ หรือที่เรียกกันว่า ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ทุกคนต้องปรับพฤติกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ การเว้นระยะห่างทางสังคม รวมไปถึงการให้บริการทางการแพทย์ที่มีข้อปฏิบัติมากมาย
covid 19
ศูนย์บริการสาธารณสุข 61 สังวาล ทัสนารมย์ ของเรา เป็นหน่วยบริการทางการแพทย์ ซึ่งให้บริการประชาชนในพื้นที่เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง ตั้งแต่มีโรคโควิด-19 เข้ามา เนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่ บุคลากรของหน่วยงานเราซึ่งเป็นด่านหน้าต้องทางานหนักกันมากขึ้น ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายมากๆ เมื่อมีผู้ป่วยในพื้นที่ ทีมได้มีการสอบสวนโรค ค้นหากลุ่มเสี่ยง ตรวจคัดกรองทั้งในชุมชน...
ความประทับใจ จากการออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียง ต.พระหลวง อ.สูงเม่น จ.แพร่
คุณค่าจากงานชุมชน
bedridden patient
เมื่อปี 2563 2564 ที่ผ่านมา ดิฉันเป็นหนึ่งในทีมดูแลสุขภาพช่องปากผู้ป่วยติดเตียงในต.พระหลวง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้ออกตรวจสุขภาพช่องปากผู้ป่วยติดเตียงในเขตรับผิดชอบ ซึ่งในทีมประกอบไปด้วย ทันตแพทย์ จาก รพ.สูงเม่น, พยาบาลวิชาชีพ ที่เป็น Care Manager, ทันตาภิบาล และผู้ช่วยเหลือคนไข้ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและนำมา วางแผนการดูแลและรักษา ให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เหมาะสมแก่ผู้ดูแล เพื่อป้องกันการเกิดปอดติดเชื้อจากการสำลัก โดยมีการเตรียมข้อมูลผู้ป่วย และนัดหมายกับผู้ดูแล เป็นที่เรียบร้อยก่อนการเข้าเยี่ยม
ทุกวันอังคารบ่ายของแต่ละสัปดาห์ในไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ เราใช้มอเตอร์ไซค์ เป็นยานพาหนะ เพื่อความสะดวกในการสัญจร ภายในหมู่บ้าน โดยการเยี่ยมผู้ป่วยแต่ละคนใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงเยี่ยมได้ครั้งละ 3 4 คน
.
...
พลังแห่งความห่วงใยเสริมสร้างพลังใจ
วันหนึ่งเวลาประมาณ 20.00 น. พยาบาลได้รับสายโทรศัพท์จากผู้ชายสูงวัย อายุ 76 ปี ซึ่งไม่เคยใช้โทรศัพท์มาก่อน โทรมาด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ ว่า “หมอ กินข้าวรึยัง ผมจะบอกว่าผมเลิกบุหรี่ได้ 1 ปี แล้วนะ หมอก็ดูแลตัวเองด้วยนะ” เสียงนี้เป็นเสียงที่ให้กำลังใจพยาบาลคนหนึ่ง ที่ตั้งใจดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมด้วยหัวใจ ซึ่งไม่ต้องใช้ยาแพงตัวไหนเลย
empowering
ก่อนหน้านี้ ย้อนไปเมื่อ 1 ปี ก่อน ผู้ป่วยชายสูงวัย สูบบุหรี่เป็นประจำ มีภาวะซึมเศร้า และบ่นว่าเบื่อหน่าย ท้อแท้กับการดูแลตัวเองที่ป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพอง ไม่มีใครสนใจ ลูกชายไปทำงานต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้พูดคุย ภรรยาเลิกรากันแล้ว เหมือนอยู่ตัวคนเดียว รู้สึกว่าการสูบบุหรี่ ช่วยบรรเทาความเครียดได้ แต่ผู้ป่วยก็ยังคงมารับบริการอย่างต่อเนื่อง
ถ้าผู้ป่วยได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเขาจะเดินเท้าออกจากบ้าน 3 กิโลเมตร เพื่อนั่งรถโดยสาร แต่ในบางครั้งที่ไม่มีเงินผู้ป่วยจะขี่จักรยาน มาโรงพยาบาลเอง เป็นประจำ เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ก็มักจะได้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสมอ ซึ่งประวัติที่ผ่านมาได้มีการปรับยาหลายครั้งแต่อาการของผู้ป่วยก็ไม่ดีขึ้น
วันหนึ่งผู้ป่วยได้มาตามนัดเพื่อรับยาแต่กว่าที่จะมาถึงโรงพยาบาลก็เลยเวลาที่คลินิกเปิดให้บริการ เมื่อมาถึง พยาบาลก็ได้สอบถามและประเมินอาการ จากการสอบถามพูดคุย ผู้ป่วยจึงเล่าว่า...
เรื่องเล่าโรงพยาบาลหนองพอก
“เรียนรู้จากความผิดพลาด”
เมื่อเกิดความผิดพลาด หรือเกิดอุบัติการณ์ความเสี่ยงขึ้น สิ่งที่เรานึกถึงคือเรื่องอะไร ??????
แน่นอนว่า สิ่งที่คนเราชอบนึกถึงเสมอ คือ “ใครเป็นคนทำ ???.....”
แล้วคำพูดที่ชอบตามมาก็คือ “คนนี้อีกแล้วเหรอ ????.....”
learn-from-mistakes
การพัฒนางานคุณภาพ ในการดูแลรักษาผู้ป่วยสิ่งสำคัญคือ ความผิดพลาดคลาดเคลื่อนที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะที่เป็นอุบัติการณ์ระดับ E Up ขึ้นไป เราควรเฝ้าระวังความเสี่ยง ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติการณ์ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว การทบทวนร่วมกัน เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขเชิงระบบเป็นสิ่งสำคัญ
การพัฒนาคุณภาพบริการของโรงพยาบาลหนองพอก ได้รับการเรียนรู้ทบทวนผ่านอุบัติการณ์ความเสี่ยงมาหลายปี พบว่า การแก้ไขปรับปรุงเพื่อป้องกันการเกิดความเสี่ยงซ้ำ ควรแก้ไขที่ระบบ มองหาจุดบกพร่องของระบบ หาแนวทางป้องกันในระบบ และป้องกันไม่ให้ Human Error โดยอาศัยเทคนิควิธีการที่หลากหลายมาช่วย
เมื่อวันหนึ่งฝ่ายเภสัชกรรม ได้รับประสานจากโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ว่าผู้ป่วยได้รับ ยาวาร์ฟารีน เกินขนาด คนไข้ถูกส่งต่อด้วย Gut Obstruction INR=12.79 จึงได้ตามรอยเคสนี้ พบว่ามีปรับยา Warfarin โดยมีการสั่งใช้ Warfarin 3 ขนาน ทำให้ 17 วันต่อมาผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง ได้ส่งต่อโรงพยาบาลร้อยเอ็ด...
เรื่องเล่าแรงบันดาลใจ ของบุคลากรสาธารณสุข ที่เราประทับใจในการให้บริการต่อผู้ป่วย
“บุคลากรสาธารณสุขยุคใหม่ หัวใจคุณภาพ”
....กำลังใจ....
motivation
ไลน์... คุณหมอเจ้า..
ไลน์... ป้ารบกวนให้คุณหมอมาดูแฟนป้า..หน่อย
เช้าของวันหนึ่ง ขณะที่กำลังแต่งตัวและตระเตรียมอุปกรณ์เพื่อจะไปทำงาน มีข้อความไลน์เด้งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ “คุณหมอเจ้า”... “ป้ารบกวนให้คุณหมอมาดูแฟนป้า...หน่อย” เป็นข้อความจากญาติคนไข้ที่ทักมาแต่เช้า ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าคนไข้ของญาติรายนี้มีปัญหาอะไรหรือป่าว ทิ้งข้อความให้ชวนสงสัย
คงต้องบอกก่อนว่า ผมนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ ที่พึ่งย้ายมาประจำอยู่ ณ สถานบริการแห่งนี้ ยังไม่ค่อยรู้จักและเข้าใจบริบทของพื้นที่ ชุมชนแห่งนี้ดี เท่าไหร่
การทำงานในสถานบริการแห่งใหม่นั้น ก็คงต้องปรับตัวอีกเยอะ ซึ่งหลักๆ ก็จะเป็นการให้บริการแบบองค์รวม ทั้งสี่ด้านไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็น การรักษา การส่งเสริม การป้องกัน และการฟื้นฟู การดูแลสุขภาพของชาวบ้านและชุมชน ที่นี่ดำเนินการไปอย่างเรียบง่ายคงไม่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง พร้อมทิ้งข้อความ “ป้าครับ เดียวสัก 10 โมง ผมลงไปเยี่ยมที่บ้านนะครับ” เป็นการแจ้งให้ป้าทราบว่า ผมได้นัดหมายเวลาป้า เพื่อลงไปดูและเยี่ยมญาติของป้า โดยไม่ได้ละเลย...
เมื่อถึงเวลา 10.00 น. ผมพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็นในการออกเยี่ยมบ้านและนัดแนะกับ อสม. อีก 1 ท่าน...