วันอาทิตย์, มีนาคม 16, 2025
Nursing Role for Stroke Management in NAN
Nursing Role for Stroke Management in NAN หัวใจสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) คือ Nursing process ประกอบด้วย การประเมินภาวะสุขภาพ (Assessment)การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing Diagnosis)      การวางแผนการพยาบาล (Planning) การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation) และการประเมินผลการพยาบาล (Evaluation) พยาบาลจึงต้องพัฒนาทักษะและศักยภาพการดูแลผู้ป่วยเฉพาะโรคโดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนตัวเองเป็น Smart nurse 4.0 เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับงานบริการพยาบาล พัฒนาตนเองให้ก้าวทันโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) เป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย พบว่ามีผู้ป่วย stroke รายใหม่และผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ที่ไม่สามารถควบคุมได้เกิดภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้นทุกปี มีอัตราตายสูง หรือเกิดความพิการตามมาได้เป็นภาระของครอบครัว จังหวัดน่าน มีลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบสูงและภูเขาสูง เส้นทางเดินทางคดเคี้ยว ระยะทางจากที่อยู่อาศัยถึง โรงพยาบาลประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เนื่องจากพื้นที่กันดารและเป็นที่ราบสูงประชาชนที่อยู่อาศัยห่างไกลเข้าถึงบริการรักษาได้ยากทำให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีภาวะฉุกเฉินมีอัตราตายสูงโรงพยาบาลน่านจึงได้พัฒนาทักษะความรู้ความชำนาญของทีมสหวิชาชีพเพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วย stroke ให้รวดเร็วและปลอดภัยที่สุดเชื่อมโยงการดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วย stroke ด้วยความร่วมมือและการช่วยเหลือของกลุ่มงานเวชกรรมสังคมที่พัฒนาศักยภาพเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขต้นแบบภายในชุมชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความเสี่ยงและลดความรุนแรงของโรคเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยและประชาชน พว.วรวรรณ ชำนาญช่าง             ...
วิกฤติสุขภาพสงบ เมื่อพบผู้นำรวมหมู่: กรณีศึกษา Meta R2R กับปัญหาตกเลือดหลังคลอด “เก่งคนเดียวไม่มีวัน...ทำงานใหญ่...ได้สำเร็จ แต่ถ้าจะให้ได้มากกว่าความสำเร็จ                                                                                                         ...
ผู้ป่วยเสียชีวิตจากความคลาดเคลื่อนทางยา
ปัจจุบันยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยมีอยู่มากมาย ซึ่งบางชนิดมีการสะกดชื่อยาที่มีความใกล้เคียงและคล้ายกันมาก  วันนี้เคล็ดลับงานคุณภาพ มีเรื่องราวของผู้ป่วยที่อเมริกา ซึ่งเสียชีวิตเพราะความคลาดเคลื่อนทางยามาให้ร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันครับ       ในช่วงปลายปี 2560 เกิดเหตุการณ์ที่ผู้ป่วยเสียชีวิตจากการที่พยาบาลให้ยาผิดชนิดแก่ผู้ป่วย จนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต โดยมีรายละเอียด คือ ผู้ป่วยหญิงอายุ 75 ปีมาโรงพยาบาลด้วยอาการปวดศีรษะ และมีลานสายตาข้างซ้ายผิดปกติ ได้รับการตรวจวินิจฉัยว่ามีเลือดออกภายในสมองจากก้อนเนื้องอก แพทย์สั่งตรวจ PET Scan มีการสั่งยา Versed (Midazolam) เพื่อให้ผู้ป่วยสงบในระหว่างการทำ PET Scan โดยพยาบาลที่รับหน้าที่ฉีดยาได้ไปกดรับยาที่เครื่องจ่ายยาอัตโนมัติ (Automated Dispensing Cabinet) โดยการ scan barcode ของผู้ป่วย และอักษรชื่อยา 2 ตัวแรก (คือ VE) แต่แต่หน้าจอของเครื่องขึ้นมาว่าไม่มียาตัวนี้ (เพราะเครื่องตั้งค่าชื่อยาเป็น generic name ไม่ใช่ชื่อทางการค้า)       พยาบาลท่านนี้จึงกดยกเลิกระบบปกติของเครื่องและเปลี่ยนมาใช้ Override Setting (ซื่งจะใช้เมื่อต้องการเบิกยาฉุกเฉินเท่านั้น) เมื่อป้อนอักษร VE อีกครั้ง ครั้งนี้ชื่อยา Vecuronium (ซึ่งเป็นยาที่ทำให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเป็นอัมพาต ใช้ระหว่างดมยา หรือใช้ในผู้ป่วยที่ต้านเครื่องช่วยหายใจ)...
"คุณค่า คุณภาพ คุณธรรม ถอดบทเรียนงานประชุมวิชาการ HA National Forum ครั้งที่ 19" By HAI Note Taker 2018 การจัดประชุมวิชาการประจำปี HA National Forum ครั้งที่ 19 ในหัวข้อ “คุณค่า คุณภาพ คุณธรรม” ได้เชื่อมโยงเรื่องราวของคุณธรรมที่มีอยู่ในใจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้ให้บริการ ซึ่งแสดงออกมาในลักษณะของบริการที่มีคุณภาพ ออกมาเป็นบริการที่มีคุณค่าในสายตาของผู้มารับบริการ เนื้อหาที่มีการบรรยายหรืออภิปรายในที่ประชุม        จึงมีขอบเขตของการนำเสนอที่กว้างขวางและครอบคลุมทั้งศาสตร์ของการบริหารจัดการ ศาสตร์ทางการแพทย์และสาธารณสุข และมิติทางจิตวิญญาณของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ การถอดบทเรียนของเนื้อหาใน HA National Forum ครั้งที่ 19 ได้รับความกรุณาจากนักถอดบทเรียนจำนวน 33 ท่าน ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการถอดเนื้อหาการบรรยาย จนได้ออกมาเป็นเรื่องที่ได้รับการถอดบทเรียนรวม 95 เรื่อง เนื้อหาเหล่านี้น่าจะช่วยให้ผู้อ่านได้รับความรู้ แง่คิด และแนวปฏิบัติ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในการปฏิบัติงานในชีวิตประจำวัน สถาบันขอขอบคุณผู้บรรยายทุกท่านที่อนุญาตให้สถาบันจัดทำและเผยแพร่เนื้อหาที่มีการบรรยายในการประชุมออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ ตลอดจนตรวจทานความถูกต้องของเนื้อหาที่นักถอดบทเรียนได้เรียบเรียงเขียนขึ้นมาก่อนที่จะมีการเผยแพร่ และที่ขอบคุณเป็นที่สุด คือ นักถอดบทเรียนทุกท่านที่เสียสละเวลาในการบันทึก เรียบเรียง และจัดทำเนื้อหา ออกมาเป็นบทความวิชาการที่มีความครบถ้วนและพร้อมต่อการเผยแพร่ สถาบันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนื้อหาที่ถอดบทเรียนมาอยู่ในหนังสือเล่มนี้จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพของสถานพยาบาลทุกแห่งต่อไป นพ.กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) ดาวน์โหลดที่นี่…ฟรี ถอดบทเรียนงานประชุมวิชาการ...
Learning Key for Sustainability "การเรียนรู้เป็นกุญแจสำคัญสู่ความยั่งยืน โดยการเรียนรู้ต้องเกิดจากการปฏิบัติจริง มีการสะท้อนความคิด ถือเป็น Collective learning และต้องแสวงหาความรู้จากภายนอก" ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช การดำรงชีวิตในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง หรือ VUCA world โดยยกตัวอย่างการจัดประชุมวิชาการประจำปี ของ สรพ. ที่ได้จัดมาถึง 20 ปี และมีการเปลี่ยนแปลงและยกระดับพัฒนารูปแบบและแสวงหาความร่วมกับภาคี    เครือข่ายต่างๆ มากมาย เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง พร้อมยกตัวอย่างนกเพนกวินที่เป็นตัวเดินเรื่องในหนังสือ Our Iceberg is Milting ซึ่งขายดีเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ที่เห็นว่าโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วในทุกๆ วันทุกๆ เดือน    จึงพยายามชักชวนให้คนอื่นๆ ได้ปรับตัว แต่ไม่มีใครเชื่อหายนะจึงเกิดขึ้น จึงอย่าได้ประมาท การเปลี่ยนแปลงทีละเล็กที่ละน้อย ทำให้คนไม่รู้ตัวและไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลง ในทางธุรกิจถือว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา      และให้เห็นว่าต้องมีการปรับตัว แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก เรียกว่า Disruptive change Disruption ในวงการสุขภาพมีปัจจัย 5 ประเด็น ได้แก่ การตลาด กฎหมาย/กฎระเบียบต่างๆ เทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค การแพทย์เฉพาะด้าน...
IV care การดูแลด้วยคุณภาพและความคุ้มค่า “ระบบที่ไม่ดี จะทำให้คนพยายามหาทางออกที่ตรงกับจริตของตนเอง ดังนั้นอย่าบอกว่าคน (เด็ก) ไม่ทำตาม แต่เราต้องไปดูว่าอะไรที่ไม่เอื้อให้ทำ นั่นแสดงว่าระบบอาจจะไม่ดี”                                                                                             (พว.นุชจารี จังวณิชา cr.นพ.อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล) การใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนปลายเพื่อให้สารน้ำเป็นการรักษาที่ทำบ่อยในโรงพยาบาลโดยพบผู้ป่วยที่เข้ารับ การรักษาในโรงพยาบาลมากกว่าร้อยละ 70...
“ประสบการณ์ของผู้ป่วย (Patient Experience)
การพัฒนาระบบงาน เพื่อให้เกิดคุณภาพ สิ่งหนึ่งที่ต้องนำมาทบทวนและให้ความสำคัญ คือ "ประสบการณ์ของผู้ป่วย"  วันนี้ เคล็ดลับคุณภาพขอนำผลจากการศึกษาของ University of Utar Health ซึ่งลงตีพิมพ์ใน NEJM Catalyst March 2019. ในหัวข้อ “ประสบการณ์ของผู้ป่วย (Patient Experience)” ซึ่งมีประเด็นที่น่าพิจารณามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ คือ 1. การดูแลผู้ป่วยที่ดี ผู้ให้การดูแลต้องมีทั้งความรู้ความเชี่ยวชาญในงานของตน การยึดมั่นในหลักการที่จะมอบสิ่งที่เหมาะสมที่สุดให้ผู้ป่วย และจิตวิญญาณของการดูแลด้วยความเอาใจใส่ 2. สิ่งที่ผู้ป่วยอยากได้รับจากผู้ให้บริการมากที่สุด คือ คุณภาพบริการทั้งในเชิงประสิทธิผล ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย รองลงมาคือ ประสบการณ์ที่ดีในการมารับบริการ และราคาที่สมเหตุสมผล 3. ประสบการณ์ที่ผู้ป่วยต้องการมากที่สุด คือ การที่แพทย์รับฟังเรื่องราวของผู้ป่วยอย่างตั้งใจ เคยมีการศึกษาที่พบว่า แพทย์จะรับฟังเรื่องราวของผู้ป่วยโดยเฉลี่ย 11 วินาที ก่อนที่จะขัดจังหวะการเล่าของผู้ป่วย ด้วยคำถามที่แพทย์อยากถามเพื่อการซักประวัติ 4. ปัจจัย 3 อันดับแรกที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างประสบการณ์ที่ดีของผู้ป่วย คือ         1) เวลาที่ไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย        2) การต้องทำกิจกรรมหลายอย่างที่ไม่สร้างคุณค่าเพิ่มให้แก่กระบวนการดูแลผู้ป่วย เช่น...
การถอดบทเรียนผลการพัฒนาคุณภาพด้วยตนเอง
ในการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลนั้น เมื่อมีการดำเนินการไปถึงระดับหนึ่ง เราจะสามารถมองเห็นผลลัพธ์จาก   ตัวชี้วัดหรือผลการประเมินในรูปแบบต่างๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจไม่ได้สะท้อนผลการพัฒนาคุณภาพได้อย่างครบถ้วน “การถอดบทเรียน” จึงเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เห็นถึงผลการดำเนินงานทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งการถอดบทเรียนผลการพัฒนาคุณภาพนั้นสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยมีวิธีการ/ขั้นตอนดังต่อไปนี้ รวบรวมข้อมูล เป็นการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ถอดบทเรียนสนใจที่จะนำมาถอดบทเรียนหรือได้รับมอบหมาย ซึ่งได้มาจากการศึกษาค้นคว้า การสังเกต การฟัง การซักถาม หรือการใคร่ครวญ จัดกลุ่ม เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ผู้ถอดบทเรียนจะต้องนำมาจัดกลุ่มเพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้ เช่น วิธีการ วิธีคิด/แนวคิด/หลักคิด วลีสำคัญ (วลีฮุค) ต้นทุน ผลลัพธ์/ผลการประเมิน ปัจจัยหนุน/ต้าน หรือด้านอื่น ๆ ที่ผู้ถอดบทเรียนสนใจ สกัดหัวใจของเรื่อง ผู้ถอดบทเรียนอาจจับประเด็นสำคัญของเรื่องโดยการใช้กรอบแนวคิดต่าง ๆ เข้ามาช่วย เช่น Management Framework (การนำ ยุทธศาสตร์ การมุ่งเน้นลูกค้า การวัด/วิเคราะห์/การจัดการความรู้ กำลังคน กระบวนการ/ระบบงาน การบริหารความเสี่ยง ฯลฯ) สังเคราะห์บทเรียนที่มีคุณค่า (Value Statement) ผู้ถอดบทเรียนจะต้องมองหาคุณค่าของเรื่องที่ว่าคืออะไร ซึ่งควรจะต้องเป็นคุณค่าที่เป็นประโยชน์ต่องาน ทบทวนเป้าหมายการถอดบทเรียน โดยใช้หลักการ 5W1H What หัวใจของเรื่อง Why มีคุณค่ากับอะไร Who ใครเป็นผู้อ่าน ...
สุขภาพและความปลอดภัยของบุคลากรในโรงพยาบาล
ใครๆ ก็อยากมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายที่แข็งแรงกันทุกคนใช่ใหมครับ บุคลากรในโรงพยาบาลก็คงเช่นเดียวกัน วันนี้เคล็ดลับงานคุณภาพ ชวนมาเรียนรู้ สุขภาพและความปลอดภัยของบุคลากรในโรงพยาบาล ด้วยกันครับ    ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลจะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการดูแลรักษาพยาบาลผู้เจ็บไข้ได้ป่วย และเป็นที่คาดหวังว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยสูงและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเยียวยา แต่ในสภาพความเป็นจริง มีการศึกษาวิจัยที่พบว่า บุคลากรที่ทำงานในโรงพยาบาลมีการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยไม่น้อยกว่าบุคลากรในสถานประกอบการประเภทอื่น การบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยสำหรับบุคลากรภายในโรงพยาบาลเพื่อให้โรงพยาบาลมีกำลังคนที่มีสุขภาพดี และสามารถปฏิบัติภารกิจต่างๆได้ลุล่วงโดยไม่เจ็บไข้ได้ป่วยเสียก่อน จึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการบริหารองค์กร  ปัจจัยหลัก 3 ประการที่ต้องคำนึงถึง ในการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของบุคลากรในโรงพยาบาล ได้แก่   🎯1. การดูแลสุขภาพของกำลังคน (healthy workforce) เช่น การประเมินสุขภาพตั้งแต่แรกเข้าทำงาน การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคติดต่อที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน การตรวจสุขภาพประจำปี การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมเมื่อเกิดการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย และการให้ความรู้เพื่อสร้างความตระหนักในภัยในที่ทำงาน   🎯 2. การปรับปรุงให้สถานที่ทำงานเอื้อต่อการสร้างสุขภาพและความปลอดภัย (healthy workplace) โดยตั้งเป้าลดโอกาสที่บุคลากรจะเกิดการบาดเจ็บจากการทำงาน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากการประกอบอาชีพ การดำเนินงานอาจใช้วิธีการออกแบบอุปกรณ์การทำงานอย่างเหมาะสม การเดินสำรวจความเสี่ยงที่หน้างานอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ข้อมูลมาใช้ในการปรับปรุง และการวางระบบรายงานความเสี่ยง/ รายงานอุบัติการณ์ เพื่อนำข้อมูลมาหาสาเหตุราก แล้วนำสู่การปรับปรุงพัฒนากระบวนงาน และการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตราย   🎯 3. การวางแนวปฏิบัติเพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉิน (emergency preparedness) ที่อาจเกิดขึ้นได้ในโรงพยาบาลและส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพของบุคลากร เช่น อัคคีภัย การรั่วไหลของสารเคมีอันตราย/ สารกัมมันตภาพรังสี การระบาดของโรคติดเชื้อ Image by rawpixel from Pixabay
ผู้ป่วยตกเตียงที่แผนกผู้ป่วยนอก
ในปี 2561 มีรายงานผู้ป่วยสูงอายุไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยอาการขาอ่อนแรง ระหว่างรอผลการตรวจเลือดบนเตียงนอน เตียงเกิดกระดก ทำให้ผู้ป่วยตกเตียงทางตอนท้ายของเตียง ตรวจร่างกายขณะนั้น ไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน แต่หลังจากกลับบ้านได้ 4 วัน ผู้ป่วยกลับมาอีกครั้งด้วยอาการปวดขา ขาบวม ขยับขาไม่ได้ x-ray พบกระดูกต้นขาขวาหัก ผู้ป่วยรายนี้เกิดการตกเตียงที่แผนกผู้ป่วยนอกในระหว่างรอผลการตรวจเลือด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทีมงานของโรงพยาบาลมักจะไม่ได้ดูแลผู้ป่วยใกล้ชิดนัก โดยทั่วไป การลื่นตกหกล้มมักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยสูงอายุและเด็กเล็กที่นอนอยู่ในหอผู้ป่วยใน เหตุการณ์นี้จึงช่วยเตือนทีมงานโรงพยาบาลว่าการลื่นตกหกล้มสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกจุดของการให้บริการ แนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ผู้ป่วยลื่นตกหกล้ม คือ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และทักษะ ของบุคลากรและญาติ ในเรื่องการป้องกันผู้ป่วยลื่นตกหกล้ม ประเมินความเสี่ยงต่อการลื่นตกหกล้ม ด้วย Morse Fall Risk Assessment หรือ Hendrich Fall Risk Assessment ในขณะแรกรับ และติดตามประเมินความเสี่ยงซ้ำเป็นระยะ ประเมินปัจจัยที่ทำให้การลื่นตกหกล้มแล้วจะเกิดการบาดเจ็บที่รุนแรง และถามประวัติเกี่ยวกับการลื่นตกหกล้มในอดีตที่เกิดการบาดเจ็บรุนแรงตั้งแต่แรกรับ จัดสภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการลื่นตกหกล้ม เช่น ใช้เตียงที่มีระดับต่ำ เตียงมีความมั่นคง มีอุปกรณ์เครื่องช่วยเดินประจำห้องและมีราวเกาะในจุดเสี่ยง ติดตั้งอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อผู้ป่วยพยายามลุกจากเตียง การใช้พื้นห้องน้ำที่ไม่ลื่น ทบทวนและปรับยาที่ทำให้ผู้ป่วยลื่นตกหกล้มได้ง่าย โดยเฉพาะยาทางจิตเวช Photo by Daan Stevens on Unsplash
- Advertisement -

MOST POPULAR

HOT NEWS