วันศุกร์, มกราคม 31, 2025
     ภาระกิจของเภสัชกรทุกคน คือการให้การบริบาลทางเภสัชกรรม ซึ่งหมายถึงการดูแลผู้ป่วยให้ได้รับยาที่ถูกต้อง และเหมาะสม เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต สอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละราย ในการดูแลผู้ป่วย เรามีเป้าหมาย 4 ประการ ได้แก่  การรักษาผู้ป่วยให้หายจากโรค ขจัดหรือลดอาการโรคของผู้ป่วย ชะลอการดำเนินไปของโรค ป้องกันโรค      เภสัชกรเป็นวิชาชีพที่มีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลยาแก่วิชาชีพอื่น ๆ เพื่อให้การดูแลรักษาโรคด้วยยามีประสิทธิภาพและปลอดภัย ดังนั้น เภสัชกรจึงต้องสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจเลือกใช้ยาเพื่อรักษาผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ปัจจุบันข้อมูลจากวรรณกรรมปฐมภูมิถือเป็นข้อมูลที่ทันสมัยที่สุด โดยมีแนวทางการประยุกต์ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์จากวรรณกรรมปฐมภูมิเพื่อแก้ปัญหาของผู้ป่วย ดังนี้ ระบุปัญหาของผู้ป่วย ค้นหางานวิจัยจากฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น PubMed, Embase, Google Scholar เลือกงานวิจัยจากวารสารที่น่าเชื่อถือ โดยพิจารณาจากการผ่านการตรวจทานโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer review), ค่า impact factor, และ SCImago Journal Rank  ประเมินความน่าเชื่อถือของงานวิจัย      นอกจากนี้ ยังมีวรรณกรรมทุติยภูมิที่น่าเชื่อถือ เช่น  UpToDate, AccessPharmacy, Micromedex, Medscape, IDSA, NCCN, uCentral, Precise PK  เป็นต้น...
“...Growth mindset ของเราไม่ใช่เพียงช่วยเราเอง แต่นำเอาไปช่วยผู้อื่น และไม่ใช่เพียงของเราคนเดียว แต่ต้องสร้างให้เกิดเป็น growth mindset หมู่…” 8 ประเด็น สำคัญจาก อ.ประสิทธิ์ ถึงผู้ฟัง และผู้อ่าน คนที่มี Growth mindset คือ คนที่พร้อมรับแนวคิดใหม่ ๆ คิดถึงทุกความเป็นไปได้ในสิ่งที่คนอื่นเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ และการอยากทำสิ่งใหม่ ๆ นี้ทุกคนเคยทำมาตั้งแต่เด็ก เหมือนตอนเริ่มหัดเดิน เราเห็นคนข้างหน้าเราเดินได้ เราก็อยากเดินให้ได้แบบเขา เราค่อยๆเรียนรู้ แม้จะล้มลุกคลุกคลาน สุดท้ายเราก็ไม่ย้อท้อ และเดินจนได้ในที่สุด  "…เพราะฉะนั้นการอยากทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ เป็นเรื่องที่ทุกคนเคยทำ…" 2. การเสนอความคิดใหม่ๆ ในสิ่งที่คนทั่วไปคิดไม่ถึง มักเกิดแรงต้านจากคนที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง (Fixed mindset) บางครั้งอาจจะมาในรูปแบบการเสียดสี ดูถูก หรือกระทั่งทำให้กลายเป็นเรื่องตลก ดูเพ้อฝัน เนื่องจากคนเหล่านี้ไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงทำให้ไม่เปิดใจยอมรับ  3. จุดเด่นของคนที่มี Growth mindset คือ คนที่มักคิดนอกกรอบ และมองเห็นโอกาสจากงานที่ดูยาก แม้ 95% อาจเป็นแนวคิดที่มีความเป็นไปได้น้อย แต่ยังคงมองเห็นอีก 5% ที่อาจสร้างความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่  สร้างความเปลี่ยนแปลง และพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น 4....
“กายหยุดแต่จิตเติบโตต่อไปได้” จิตมนุษย์เติบโตได้ไม่มีที่สิ้นสุด จากจิตเล็กกลายเป็นจิตใหญ่ได้ เมื่อจิตเปลี่ยนชีวิตก็เปลี่ยน จิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ จนเรียกว่าปาฏิหาริย์แห่งชีวิต ชีวิตที่เปี่ยมสุข และทรงคุณค่า เป็นชีวิตที่น่าอยู่และสร้างประโยชน์แก่โลก   “จิตเล็กเพราะถูกกักขังอยู่ในอัตตา” ปุถุชนตามปกติมีจิตเล็ก เพราะถูกขังในคุกแห่งตัวตนหรืออัตตา เป็นไปตามสัญชาตญาณแห่งการเอาชีวิตรอด การรับรู้ ความรู้สึกนึกคิด ล้วนเป็นเรื่องของจิต เมื่อจิตเปลี่ยน ชีวิตก็เปลี่ยน เราสามารถสร้างชีวิตใหม่ที่เปี่ยมสุข และทรงคุณค่าได้   “กระบวนการ HA กับการเปลี่ยนจิต” กระบวนการ HA ที่ทำด้วยหัวใจเพื่อเพื่อนมนุษย์สามารถเปลี่ยนจิตได้ ด้วยเจตจำนงของผู้ให้บริการ และภารกิจการให้บริการที่ดี เป็นปัจจัยปล่อยจากจิตเล็กที่ติดอยู่ในคุกแห่งอัตตา ได้ถูกเปิดประตูใจ ออกมาเป็นอิสระหรือเกิดปัญญา เพราะภารกิจในการใช้บริการที่ดีจะกระตุ้นให้เกิดปัญญาโดยรอบด้าน งาน HA ที่เน้นการให้บริการด้วยหัวใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีคิดในสมองจากการยึดติดเอาตนเป็นศูนย์กลาง เป็นสู่การคิดถึงความดี และใช้ปัญญาเพื่อเพื่อนมนุษย์   “คุณภาพหัวใจเพื่อเพื่อนมนุษย์จิตวิวัฒน์” คุณภาพ หรือ คุณภาวะ มีความหมายสูง และครอบคลุม เริ่มต้นด้วยการมีหัวใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ 3H คือ Heart การมีหัวใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ Head การแสวงหา และใช้ความรู้ และปัญญาที่ดีที่สุด เพื่อให้บริการที่มีคุณภาพสูง Hand การลงมือปฏิบัติอย่างดีที่สุด   “มรรควิธีเปลี่ยนจิตสร้างชีวิตใหม่” มรรควิธีเปลี่ยนจิตสร้างชีวิตใหม่ มีดังต่อไปนี้ 1.เจริญสติเป็นเนืองนิตย์ 2.มีไมตรีจิตอันไพศาล 3.จิตจักรวาล 4.ทำงานทุกชนิดด้วยหัวใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ 5.รวมตัวร่วมคิดร่วมทำ สร้างมวลอำนาจทางสังคม   “ชีวิตที่เปี่ยมสุข และทรงคุณค่าเป็นชีวิตที่น่าอยู่ และทำโลกให้งดงาม มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนจิตสร้างชีวิตใหม่ ขอให้ทุกท่านมีชีวิตที่เปี่ยมสุข และทรงคุณค่า”   กระบวนการพัฒนาคุณภาพบริการหรือ HA สามารถเติบโตไปสร้างคนไทยทั้งประเทศเป็นผู้ที่มีจิตใจที่เจริญ และเป็นสุข ซึ่งสามารถร่วมสร้างประเทศไทยที่น่าอยู่ที่สุด อันเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญที่สุด   ฐากูร...
การอภิบาลข้อมูล (Data governance) หมายถึงกระบวนการตัดสินใจ การวางวิสัยทัศน์ การจัดทำแผนงาน การจัดการทรัพยากรข้อมูล การประเมินความเสี่ยง และการติดตามวัดประเมินผล ตลอดวงจรชีวิตของข้อมูล (Data Life Cycle) ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับข้อมูล (Data) ที่น่าสนใจคือ ในปี ค.ศ. 2006 Clive Humby ได้กล่าวไว้ว่า “Data is the New Oil.” เป็นการเปรียบข้อมูลเสมือนสินทรัพย์ที่มีค่าที่ต้องเก็บไว้ไม่แบ่งใคร  ต่อมาในปี ค.ศ. 2012 David McCandless ได้กล่าวโต้ว่า “Data is Not the New Oil. Data is the New Soil.” เนื่องจากข้อมูลไม่ได้เป็นทรัพยากรที่ห้ามแบ่งใคร กลับกันการเก็บข้อมูล การนำข้อมูลที่มีนำมาใช้อาจทำให้ผลิดอกออกผลได้มาก และมีประโยชน์มากกว่าในการนำข้อมูลออกมาใช้ร่วมกัน ดั่งดินที่ทำให้ต้นไม้งอกงาม คุณลักษณะที่ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ข้อมูลสารสนเทศ (Data and Information) 10 ประการ ได้แก่ เป็นทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตน (Intangible) ไม่ถูกบริโภคหมดไป...
“ทำอย่างไรจะทำให้ความฝันเป็นจริง?” ความฝันในที่นี้หมายถึงการมีสุขภาพที่ดีขึ้น มีระบบบริการสุขภาพที่ดีขึ้น mindset เป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิด Better healthcare system คือ มีระบบบริการสุขภาพที่ดีขึ้น สุขภาพของแต่ละคนดีขึ้นได้ ระบบสุขภาพที่ดี ทำให้สุขภาพดีขึ้น ทั้ง 2 ส่วน มีผลกระทบซึ่งกันและกัน การใช้ทฤษฎีสามเหลี่ยมเหล็กแห่งระบบบริการสุขภาพมาเป็นแนวคิดในการทำให้บริการสุขภาพดีขึ้น คือ การเข้าถึงของประชาชน (access) คุณภาพการให้บริการ และค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ  หากประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ ได้รับการให้บริการสุขภาพที่ดี จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพลดลง สามเหลี่ยมนี้มีความสัมพันธ์กัน “ระบบสุขภาพที่ฝัน ต้องเริ่มต้นที่แต่ละคน ทำอย่างไรให้แต่ละคนมีสุขภาพดี” เรื่อง growth mindset เพื่อให้เข้าใจง่าย ลองนึกเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เกิดเริ่มจากนอน เราเห็นคนข้างหน้านั่ง เราก็อยากนั่ง เราเริ่มนั่งได้ เราเห็นคนยืน เดิน วิ่ง เราเกิดการเปลี่ยนแปลง จากการเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเราแล้วเราทำ การเปลี่ยนแปลงตอนเริ่มต้นเราอาจจะยังไม่รู้วิธีการ ในแต่ละครั้งของการลุก เดิน วิ่ง มีการล้ม มีการพลาด มาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งเรากลับมาสู้ต่อ กลับมาเรียนรู้ต่อด้วยตัวเองว่าทำอย่างไรถึงจะไม่ล้ม ทั้งหมดมันเกิดขึ้นได้เพราะคำว่า learning เป็นสัญชาตญาณของการมีชีวิต ในการเปลี่ยนแปลง อาจเริ่มต้นจากการไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ต้องมีการเรียนรู้ (learning) ไปสู่การแก้ไขปัญหา (solution) ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ คือ...
     การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งอยู่ในมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ หมวด I-5 เชื่อว่าหลายท่านมองว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะผู้บริหารโรงพยาบาลที่ปัจจุบันต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากร การแข่งขันด้านค่าตอบแทน การประเมินและพัฒนาบุคลากร  องค์กรควรพิจารณาความท้าทายด้านทรัพยากรมนุษย์ดังนี้ 1. ความท้าทายในการจัดการอัตรากำลัง      1.1 ลดอัตราการลาออกของบุคลากรกลุ่มสำคัญ      1.2 เพิ่มความสามารถของบุคลากรที่มีอยู่ในปัจจุบัน 2. ความท้าทายในการสรรหาคัดเลือก      2.1 สรรหา คนเก่ง มาร่วมงานกับองค์กร       2.2 รักษา คนเก่ง ให้คงอยู่กับองค์กร 3. ความท้าทายในการพัฒนาบุคลากร      3.1 พัฒนาสมรรถนะบุคลากรให้เท่ากันการเปลี่ยนแปลง       3.2 พัฒนาความอยู่ดีมีสุข (Well-Being) ของบุคลากร 4. ความท้าทายในการประเมินผลงาน      4.1 ประเมินผลงานเพื่อจ่ายผลตอบแทนอย่างยุติธรรม      4.2 ประเมินผลงานเพื่อโค้ชหรือพัฒนาให้บุคลากรขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง 5. ความท้าทายในการพัฒนาองค์กร      5.1 เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน      5.2 จัดทำนวัตกรรมในงานเพื่อเพิ่มคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลยุทธ์ในการลดอัตราการลาออกของบุคลากรกลุ่มสำคัญ ควรดำเนินการดังนี้ ให้ความสำคัญกับการหาตัวขับเคลื่อนความผูกพันช่วงขณะที่บุคลากรยังอยู่กับองค์กรมากกว่าการทำ Exit Interview หาสาเหตุการลาออกตอนที่บุคลากรยื่นใบลาออกเนื่องจากขาดความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือ จำแนกผู้ที่มีผลงานสูงและต่ำให้ได้ เมื่อจำแนกได้แล้วให้จัดการดูแลตามกลุ่ม หลายองค์กรจะพบว่าบุคลากรที่มีผลงานระดับ Star...
”Evidence-based practice for improving patient outcomes.”    ทางคณาจารย์ได้กล่าวถึง Evidence-based medicine (EBM) ซึ่งเป็นแนวทางการดูแลสุขภาพที่เน้นการใช้ผลงานวิจัยคุณภาพสูงมาเป็นหลักฐานในการตัดสินใจทางคลินิก1 ประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่  Clinical expertise ทีมสหสาขาวิชาชีพ Best evidence งานวิจัยที่มีคุณภาพ Patient values ผู้ป่วยและครอบครัว ใน 3 องค์ประกอบนี้ ถือเป็น “the best evidence” ที่มักเป็นองค์ประกอบที่ถูกลืมในกระบวนการดูแลคนไข้      โดยอาจารย์ได้มีการยกตัวอย่างของงานวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อเป็นแนวคิดในการทำงานวิจัยด้านคุณภาพ หากเรายังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร เราสามารถลองดูงานวิจัยที่ตีพิมพ์ทำมาแล้ว เราอาจจะได้แนวคิดการเขียน Driver Diagram, Root cause analysis, PDSA/PDCA, Control chart เพื่อกลับมาทำในบริบทรพ.เราเอง      นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยด้าน cost-effectiveness เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนในเทคโนโลยีหรือยาเพื่อการรักษา โดยยกตัวอย่างของการใช้  Computerized Provider Order Entry ว่าคุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับการใช้กระดาษ2      แต่อย่างไรก็ตาม...
     ปัจจุบันการให้บริการปฐมภูมิมีบทบาทสำคัญในระบบสาธารณสุขของประเทศไทย หากต้องการให้บริการปฐมภูมิเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน เราจำเป็นต้องมองภาพรวมของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในทุกสาขาวิชาชีพ รวมทั้งเครือข่ายด้านประชาชนในทุกภาคส่วน ทั้งยังต้องเชื่อมโยงไปถึงบ้านของผู้ป่วย ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในชุมชน และสถานที่ดูแลประชาชนกลุ่มต่างๆ       หากเรามองว่าบริการปฐมภูมิจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ของบริหารสุขภาพ (Ecology of health)  โดยให้ประชาชนเป็นจุดศูนย์กลาง จะทำให้เกิดการบริหารระบบสุขภาพแบบบูรณาการ ที่ไม่เพียงแค่การดูแลเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึง การส่งเสริม ฟื้นฟูและป้องกันสุขภาพของตนเอง จึงจะถือว่าเป็นองค์รวมเบ็ดเสร็จผสมผสาน นอกจากนี้การให้บริการปฐมภูมิจำเป็นต้องมีความเข้าใจ ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และใช้ข้อมูลเป็นตัวนำในการกำหนดแนวทางการให้บริการ ทั้งในรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ ให้สอดคล้องไปกับเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามา ตามแนวคิด "รู้จัก รู้ใจ เข้าถึง พึ่งได้"      แต่ประเด็นท้าทายของการให้บริการปฐมภูมิปัจจุบัน คือ การเชื่อมโยง และส่งเสริมความต่อเนื่องของบริการ ยกตัวอย่างเช่น การถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต. ไปสู่ อบจ. ซึ่งมีทั้งมุมมองในแง่ “โอกาส” และ “วิกฤต” หากเรามองเป็นวิกฤต เราคงมองว่าเต็มไปด้วยอุปสรรค ปัญหาที่เข้ามามากมายเต็มไปหมด แต่หากเรามองว่าเป็นโอกาส จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึง และจัดการดูแลประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การคัดลอกงานจากสังกัดเดิม แต่เป็นการปรับเปลี่ยน (transform) และยกระดับการบูรณาการ (integrate) ของการให้บริการปฐมภูมิให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจุดการเข้าถึงบริการ (access...
  บทบรรณาธิการ Quality Care: HA National Forum ครั้งที่ 24  "Growth Mindset for Better Healthcare System" ระบบบริการสุขภาพที่ก้าวหน้า ด้วยกรอบความคิดที่กว้างไกล      ในยามที่โลกเผชิญความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 การปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด และความเป็นสุขของมนุษยชาติจึงเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ หัวใจสำคัญของการก้าวข้ามผ่านความท้าทายเหล่านี้ คือ "Growth Mindset" หรือ กรอบความคิดแบบเติบโต ที่เชื่อว่าความสามารถต่าง ๆ สามารถพัฒนาได้ด้วยความพยายาม มองความล้มเหลวเป็นบทเรียน พร้อมเปิดใจเรียนรู้และรับมือกับความท้าทาย      การพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ก้าวหน้าท่ามกลางข้อจำกัดมากมายในปัจจุบัน จำเป็นต้องอาศัย Growth Mindset เพื่อคิดเชิงระบบ คิดนอกกรอบ คิดสร้างสรรค์นวัตกรรม และทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ ทั้งในมิติของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ให้ และผู้รับบริการ การสร้างกระบวนการทำงานอย่างมีส่วนร่วม และการใช้เทคโนโลยีเป็นกลไกขับเคลื่อนอย่างชาญฉลาด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย "The Quintuple Aim" ได้แก่ 1) ประสบการณ์ที่ดีของผู้ป่วย 2) ผลลัพธ์สุขภาพที่ดีขึ้น 3) ต้นทุนที่ลดลง 4) ความเป็นอยู่ที่ดีของบุคลากร...
การจัดการสิ่งแวดล้อมในการดูแลผู้ป่วยเพื่อการเยียวยา (Healing Environment) “Making healing As important As curing – ให้ความสำคัญกับการเยียวยามากเท่ากับการรักษา” นพ.ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์  “ธรรมชาติ เป็นพลังพิเศษในการเยียวยา ให้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอต่อร่างกายและจิตใจ” คุณนันทพงศ์ เลิศมณีทวีทรัพย์ “ออกแบบ Healing ENV ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ทำในสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เรามี สิ่งที่ธรรมดาและเรียบง่าย” คุณชัชนิล ซัง สิ่งแวดล้อมเพื่อการเยียวยา (Healing Environment) เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการดูแลผู้ป่วยด้วยมิติจิตวิญญาณ (Spiritual care) และได้รับความสนใจเริ่มมีการพัฒนาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผนวกกับมีงานวิจัยจำนวนมากที่ช่วยยืนยันแนวคิดนี้ว่าสามารถช่วยลดจำนวนวันนอน ลดความทุกข์ทรมาน หรือ แม้กระทั้งการเพิ่มคุณภาพชีวิต (Quality of life) ที่ดีขึ้นของผู้ป่วยรวมถึงญาติ จนในปัจจุบันได้ถูกนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานทั้งของไทยและต่างประเทศ การจะพัฒนาสิ่งแวดล้อมเพื่อการเยียวยา (Healing Environment) นั้น ต้องรับรู้และนำความต้องการของผู้ป่วยและ ผู้รับผลงาน (รวมทั้งญาติและ staff) มาบูรณการร่วมกับองค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรม เพื่อนำมาสู่การออกแบบที่ตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าว session นี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับ บทบาทของผู้นำ บทบาทของผู้ออกแบบ รวมทั้งการค้นหาความต้องการด้านมิติจิตวิญญาณ ที่จะนำมาสู่การออกแบบด้านกายภาพที่จะช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบาย ปลอดภัยและมีบรรยากาศที่อบอุ่น โดยใช้องค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรมมาช่วยทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมบรรยากาศดังกล่าว นพ.ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์...
- Advertisement -

MOST POPULAR

HOT NEWS