การฉีดวัคซีนโควิดในกลุ่ม Viral vector (ตอนที่ 1)
ในเดือนมิถุนายน 2564 ประเทศไทยจะเริ่มมีการฉีดวัคซีน AStraZeneca เป็นล็อตใหญ่ ดังนั้น จึงน่าจะมีโอกาสมากขึ้นที่ประเทศไทยจะเผชิญเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (AE) จากการฉีดวัคซีนกลุ่ม viral vector เหมือนที่เคยเกิดในยุโรปและอเมริกามาแล้ว
จากการทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ AE ในวัคซีนกลุ่มนี้ พบว่า AE สำคัญคือ การเกิดลิ่มเลือดที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำควบคู่ไปด้วย ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Thrombosis with Thrombocytopenia Syndrome (TTS) หรือ Vaccine Induced Thrombotic Thrombocytopenia (VITT) หรือ Vaccine-Induced Prothrombotic Immune Thrombocytopenia (VIPIT)
TTS เป็นภาวะที่พบได้น้อยมาก อัตราการเกิดน่าจะประมาณ 1 ใน 100,00 ของการฉีดวัคซีน ลิ่มเลือดที่เกิดมักจะพบที่เส้นเลือดดำในสมอง (cerebral venous sinuses) หรือในช่องท้อง (splanchnic vein) โดยมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำร่วมด้วย ซึ่งต่างจากภาวะลิ่มเลือดที่พบในกรณีทั่วไป ที่มักจะพบบ่อยที่ขา (deep vein thrombosis) และไม่เกี่ยวอะไรกับเกล็ดเลือด แต่เกี่ยวกับการที่ร่างกายไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ถึงแม้ว่า TTS จะพบน้อยมาก แต่มีความรุนแรงสูงและมีส่วนหนึ่งของผู้ป่วยที่เสียชีวิต
กลไกการเกิด TTS คาดว่าเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของคนบางคน มีปฏิกิริยาต่อวัคซีนในกลุ่ม viral vector ทำให้เกิดการกระตุ้นให้เกล็ดเลือดมาเกาะรวมตัวกันที่ผนังหลอดเลือด ส่งผลให้เกิดลิ่มเลือดเกาะตามผนังหลอดเลือด และเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เมื่อลิ่มเลือดมีการหลุดออกจากเส้นเลือดดำที่เป็นจุดเกาะเดิม ก็จะไหลไปตามระบบเส้นเลือดดำ ผ่านหัวใจข้างขวา แล้วไปทำให้เกิดการอุดตันที่เส้นเลือดใหญ่ของปอด (pulmonary embolism) ทำให้ผู้ป่วยหายใจเหนื่อยหอบ ความดันโลหิตตก และเสียชีวิตในที่สุด
อ้างอิง จาก
-
- Centers for Disease Control and Prevention, Thrombosis with thrombocytopenia syndrome (TTS) following Janssen COVID-19 vaccine, 23 April 2021.
- Department of Health, Australian Government, Joint statement from ATAGI and THANZ on Thrombosis with Thrombocytopenia Syndrome (TTS) and the use of COVID-19 Vaccine AstraZeneca, 23 May 2021.
- United Nations, COVID-19 VACCINE TTS INTERIM GUIDELINE, 19 MAY 2021
Photo by Spencer Davis on Unsplash